บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) จัดการประชุมเชิงอภิปราย AOT Sister Airport CEO Forum 2022 ภายใต้หัวข้อหลัก “Resilience, Reunion, and Reinventing for Aviation Sustainability”
(พลิกฟื้นคืน มารวมกัน และรังสรรค์สิ่งใหม่ เพื่อก้าวไปสู่ความยั่งยืนทางการบิน) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2565 ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมฯ พร้อมด้วยนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสราวุธ
ทรงศิวิไล ประธานกรรมการ AOT คณะกรรมการ AOT นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT ผู้บริหารระดับสูงจากท่าอากาศยานภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (Sister Airport Agreement: SAA) กับ AOT ผู้บริหารและพนักงาน AOT สายการบิน หน่วยงานราชการ และผู้มีส่วนได้เสียเข้าร่วมประชุมดังกล่าว
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า การจัดประชุมเชิงอภิปราย AOT Sister Airport CEO Forum 2022 ภายใต้หัวข้อ “Resilience, Reunion, and Reinventing for Aviation Sustainability”
มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริหารระดับสูงจากสนามบินภายใต้ SAA ได้แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มของสถานการณ์อุตสาหกรรมการบินภายหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับธุรกิจทุกภาคส่วน ซึ่งทำให้ต้องมีการพิจารณาปรับเปลี่ยนรูปแบบของการบริหารจัดการ มีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อให้สามารถพลิกฟื้นและดำเนินการต่อไปได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดย Resilience คือการพลิกฟื้นของอุตสาหกรรมการบิน ให้ผู้มีส่วนได้เสียของธุรกิจการบินกลับมาดำเนินธุรกิจต่อไปได้ Reunion คือการกลับมาของผู้มีส่วนได้เสียอย่างพร้อมหน้าทุกภาคส่วน
เพื่อร่วมมือกันที่จะทำให้การเดินทางทางอากาศกลับมาดำเนินการได้อย่างเป็นปกติอีกครั้ง และ Reinventing คือการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาพัฒนาองค์กรอย่างครอบคลุมทุกมิติ อำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารเพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ลดการสัมผัส และสอดคล้องกับการเดินทางวิถีใหม่ (New Normal Travel)สำหรับการจัดประชุมเชิงอภิปราย AOT Sister Airport CEO Forum 2022 ในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก
Mr. Tao Ma ผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) และ Mr. Stefano Baronci ผู้อำนวยการสภาสมาคมท่าอากาศยานระหว่างประเทศ (Airport Council International: ACI) ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ร่วมปาฐกถาพิเศษกับนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT หลังจากนั้นจะมีการอภิปรายในหัวข้อ “Airport Business Transformation for Resilience and Sustainability” (การปรับตัวของธุรกิจท่าอากาศยานเพื่อพลิกฟื้นธุรกิจและการเติบโตอย่างยั่งยืน) โดยมี Mr. Peter Adams, Principal, Hazsafe Consultancy, Aviation Safety and Risk Management Executive เป็นผู้ดำเนินรายการ ต่อด้วยการนำเสนอแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด (Sharing Best Practices)
ในหัวข้อ “Advanced Technology as a Driver for Business Success and Seamless Travel”
(เทคโนโลยีขั้นสูงขับเคลื่อนให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและทำให้การเดินทางไร้รอยต่อ) โดยมี Ms. Theresa Fleidl, Vice President and Head of Sister Airport Cooperation, Flughafen München GmbH
เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งในการอภิปราย และการนำเสนอแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด มีผู้บริหารระดับสูง ผู้ทรงคุณวุฒิของท่าอากาศยานภายใต้ SAA เข้าร่วมอภิปรายและถ่ายทอดประสบการณ์
สำหรับ AOT ได้มีแผนการดำเนินงานเพื่อเตรียมความพร้อมในการกลับมาให้บริการในยุค New Normal
ในหลายๆ ด้าน ได้แก่ (1) การเตรียมความพร้อมในด้านศักยภาพของสนามบิน โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1) ในปี 2566 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับจำนวนผู้โดยสารจาก 45 ล้านคนต่อปี เป็น 60 ล้านคนต่อปี (2) การเตรียมความพร้อมด้านมาตรฐานการดำเนินงานสนามบิน โดยท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งในความรับผิดชอบของ AOT ยังคงได้รับการรับรองการดำเนินงานสนามบินตามมาตรฐานสากล (3) การเตรียมความพร้อมทางด้านบุคลากรให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงานได้ตามปกติเหมือนช่วงก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 และ (4) การเตรียมความพร้อมด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรรม โดยได้พัฒนาโครงการ AOT Digital Platform ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของ AOT ที่จะยกระดับการบริการ โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและข้อมูลมากมายที่กระจายอยู่ทั่วองค์กรมาทำการศึกษา วิเคราะห์ และเชื่อมโยงข้อมูลจากส่วนงานเข้าด้วยกัน โดยคำนึงถึงสิทธิส่วนบุคคล เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่การบริหารจัดการและให้บริการในโลกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งประกอบไปด้วย 4 Modules คือ M1 – AOT Digital Airports, M2 – AOT Digital Operations Dashboard, M3 – AOT Digital Office และ M4 – AOT Digital Cargo
ปัจจุบัน AOT เร่งพัฒนายกระดับโครงการ AOT Digital Platform ให้เป็นระบบ Artificial Intelligence (AI) ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการปรับเปลี่ยนหรือพัฒนาธุรกิจให้มีความพร้อมในโลกดิจิทัลมากยิ่งขึ้น เสริมสร้างศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืน
นายนิตินัย กล่าวในตอนท้ายว่า AOT หวังว่าการประชุม AOT Sister Airport CEO Forum 2022จะเป็นเวทีสำคัญสำหรับผู้บริหารระดับสูงจากท่าอากาศยานชั้นนำภายใต้ SAA ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ มุมมองด้านการบริหารจัดการสนามบินภายใต้สภาวการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะทำให้ได้รับทราบแนวทางการปรับตัวเพื่อรับมือและฟื้นฟูธุรกิจจากท่าอากาศยานต่างๆ ทั่วโลก เสริมสร้างความร่วมมือของทุกองค์กรในระดับนานาชาติ อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนการเชื่อมโยงการขนส่งทางอากาศ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป