เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 18 กรกฎาคม 2565 ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความชื่อดัง ได้พาผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ เรือบรรทุกน้ำมันที่อยู่บริเวณท่าน้ำ ท่าเรือคลังน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่บริเวณท้ายซอย สุขสวัสดิ์ 45 (ไทยอารีย์ ) ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ และเกิดการระเบิดขึ้น และจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย และบ้านเรือนประชาชนบริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหายกว่าร้อยหลังเรือน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2565 หลังเกิดเหตุได้มีตัวแทนบริษัทประกันภัยของเรือบรรทุกน้ำมันลำดังกล่าว ได้เข้ามาทำการประเมินค่าเสียหาย หลังจากนั้นมาเรื่องก็เงียบหายไป ไม่มีการชดใช้ค่าเสียหายให้กับชาวบ้านแต่อย่างใด ทำให้ชาวบ้านได้รวมตัวกันเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความชื่อดัง ก่อนที่ ดร.เกรียงศักดิ์ จึงพาตัวผู้เสียหายทั้งหมดกว่า 10 ราย เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ โดยมีนายจักรพันธ์ ระงับ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสมุทรปราการ เป็นตัวแทนลงมารับหนังร้องเรียนฉบับดังกล่าวเพื่อมอบไปส่งมอบให้ นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ
ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ ได้กล่าวว่า วันนี้ตนได้พาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเรือบรรทุกน้ำมันระเบิด ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายเกิดการแตกร้าวของโครงสร้าง และทรัพย์สินเสียหายและยังมีการให้ชาวบ้านเซ็นเอกสารว่าจะไม่ดำเนินคดีต่าง ๆ โดยอ้างว่าจะจ่ายค่าชดเชยมูลค่าความเสียหายให้ แต่เรื่องเงียบหายไป จนเวลาผ่านมาหลายเดือนชาวบ้านก็ยังไม่ได้รับค่าชดเชยค่าเสียหายแต่อย่างใด ทุกคนจึงได้รวมตัวกันเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับตนในฐานะทนายความ ในวันนี้จึงได้พาผู้เสียหายเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ส่วนทางด้านคดีความ ตนในฐานะทนายความจะเข้ามาดูแลในเรื่องการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายให้กับชาวบ้านไม่ส่วนจะเป็นส่วนอาญาหรือแพ่ง เพื่อให้ชาวบ้านได้รับการเยียวยา นอกจากนี้ยังทราบอีกว่า ยังมีการข่มขู่อีกว่า มีนักเมืองระดับรัฐมนตรีคอยหนุนหลัง หรือมีหุ้นส่วนอยู่ ใครจะมาฟ้องร้องก็ไม่กลัว แถมจะถูกดำเนินกลับด้วย
ด้าน น.ส.ศิริเกศ ยาประดิษฐ์ อายุ 40 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย ได้กล่าวว่า บ้านของตนได้รับความเสียอย่างหนักทั้งผนังบ้านแยกออกจากกัน นับตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องขึ้น รอยร้าวก็ค่อยๆเริ่มแยกมากขึ้น โดยที่เราก็ไม่ได้รับคำตอบจากทางโน้นเลย ว่า เขาจะมาชดเชยให้กับเราเมื่อไหร่ ซึ่งสิ่งที่เรามาในวันนี้เราไม่ได้มาเรียกร้องแบบเต็มที่ เราเรียกพอแค่เราสามารถซ่อมแซมบ้านของเราได้ เนื่องจากมีความเสียหายมาก ณ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขามาประเมินให้เราแล้ว แต่เรื่องก็เงียบไป ครั้งที่สองเขากลับมาอีกให้เราประเมินตัวเอง แต่เขาก็ไม่ตกลงและก็เงียบไปอีก ครั้งที่สามผู้เสียหายไปร้องเรียนเขาก็ได้มาแค่ 67 หลัง จากทั้ง 122 หลัง และอีก 45 หลังหายไปไหนส่วน 67 หลังที่รับปากว่าจะให้แต่ก็ยังไม่จ่าย พอเราทวงถามไปเขาก็ไม่มีคำตอบให้ จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางผู้นำชุมชนเขาก็มาแจ้งว่าเขาจะขอเหมาจ่ายให้ทุกบ้านหลังละ 1 หมื่นบาท ซึ่งตนรับไม่ได้เพราะบ้านตนพังหนักจริง ๆ จึงได้รวมตัวกันมาขอความช่วยเหลือจาก ดร.เกรียงศักดิ์ ซึ่งเป็นทนายความดังกล่าว