เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 15 มิถุนายน 2564 ที่ชั้น4ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ได้มีการเปิดประชุมสภาสามัญครั้ง 1 ประจำปี 2564 โดยมีการพิจารณา เรื่องแนวทางการจัดทำประชาคมท้องถิ่นกรณีจัดทำและเพิ่มเติมแผนพัฒนาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่
ซึ่งในการประชุมในครั้งนี้ได้มีการขอมติเห็นชอบจากสภา อบจ.สมุทรปราการ จ่ายขาดเงินสะสม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จำนวน 400 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับฉีดให้กับประชาชนชาว จ.สมุทรปราการ หลังจากที่กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศมาแล้วว่าองกรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถที่จะจัดซื้อวัคซีนทางเลือก นอกเหนือจากทางที่รัฐบาลจัดซื้อวัคซีนให้กับประชาชนไปแล้ว โดยสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ต่างพากันยกมือเห็นชอบในการใช้จ่ายขาดเงินสะสม ประจำปี 2564 จำนวน 400 ล้านบาทเพื่อใช้ในการจัดซื้อวัคซีนทางเลือกมาฉีดให้กับประชาชนชาวจังหวัดสมุทรปราการ
หลังการประชุม สภาองค์องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ได้เสร็จสิ้น น.ส.นันทิดา แก้วบัวสาย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ได้แถลงข่าว เกี่ยวกับการจัดเตรียมใช้เงินจ่ายขาดสะสม ประจำปี 2564 จำนวน 400 ล้านบาที่ทางสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ได้มีมติเห็นชอบให้ใช่เงินจำนวนดังกล่าวในการจัดซื้อวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา 2019
องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินการเพื่อป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของ โรคโควิด-19 อย่างเต็มกำลังและความสามารถ ในฐานะนายก อบจ.สมุทรปราการ จึงได้ประสาน ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ป่วยและครอบครัวผู้ป่วยไปจนถึง บุคลากรทางการแพทย์ให้ได้มากที่สุด และเพื่อให้ จ.สมุทรปราการ กลับคืนสู่พื้นที่ปกติโดยเร็ว
อบจ.สมุทรปราการ จึงได้ขออนุมัติสภา อบจ.จ่ายขาดเงินสะสม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จำนวน 400 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อ วัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา 19 สำหรับฉีดให้กับประชาชนชาวจังหวัดสมุทรปราการ เพิ่มเติมจากที่รัฐบาลกำลังจัดสรรให้ เพราะประชากรในจังหวัดสมุทรปราการ มีประชากรแฝง และแรงงานต่างด้าว เข้ามาทำงานและพักอาศัยอยู่กว่า 2 ล้านคน ทั้งนี้ อบจ. จะดำเนินตามนโยบายของรัฐบาล ของรัฐบาลอย่างเคร่งครัดด้วยการขออนุมัติผ่าน นายวันชัย คงเกษม ผวจ.สมุทรปราการ ไปยังศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แล้วสั่งซื้อวัคซีนทางเลือกเช่น โมเดิร์นน่า ไฟเซอร์ จอนสันแอนจอนสัน และ ซิโนฟาร์ม ผ่านองค์การเภสัชกรรม กระทรวงสาธารณสุข และผ่านราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อให้ได้วัคซีนโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ยัง บูรณาการความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นอื่นๆ จัดสรรงบประมาณ จ่ายขาดเงินสะสม เช่น เทศบาลบางเมืองใช้งบประมาณจ่ายขาดเงินสะสม จำนวน 200 ล้านบาท เทศบาลนครสมุทรปราการ จำนวน 100 ล้านบาท และเทศบาลข้างเคียงอีก 100 ล้านบาท ร่วมกับทาง อบจ.สมุทรปราการอีก 400 ล้านบาท รวมแล้วเป็นเงินจำนวน 800 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อวัคซีนและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิดที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมประซากรในท้องถิ่นนั้น ๆ และหากเราได้ วัคซีน ซิโนฟาร์มมาทั้งหมด เราจะได้วัคซีนมาประมาน 900,000 โดส ซึ่งสามารถ ฉีดให้กับประชาชนได้ถึง 450,000 คน สำหรับระยะเวลาที่จัดซื้อนั้นต้องรอทำตามขั้นตอน และระเบียบทางราชการก่อน จึงไม่สามารถตอบได้ว่าจะสามารถจัดซื้อวัคซีนได้เมื่อไหร่
แต่จะดำเนินการให้เร็วที่สุด ส่วนวัคซีนตัวแรกที่คาดว่าจะจัดซื้อน่าจะเป็น ซิโนฟาร์ม ทั้งนี้หลังจากวัคซีนมาถึงแล้ว ทาง อบจ.สมุทรปราการ จะประกาศข้อมูลข่าวสารและช่องทางการลงทะเบียนให้ประชาชนได้ทราบต่อไป