เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 21 กันยายน 2563 พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ พ.ต.ท.ศิริมงคล สุขะปารมี รอง ผกก.สส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายชลิต ชูพงษ์ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนบุกเข้าชิงทรัพย์ร้านรับจำนำอุปกรณ์ไอที ชื่อร้านไอทีมันนี่ ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามซอยด่านสำโรง 22 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง นาฬิกาข้อมือ 2 เรือน ตั๋วจำนำ 2 ใบ หมวกกันน็อคเต็มใบสีดำ กางเกงขายาว เสื้อแจ็คเก็ตแขนยาวสีดำแดง ซึ่งเป็นชุดที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และอาวุธปีนบีบีกันแบบแม็กกาซีนสีดำจำนวน 1 กระบอก โดยจับกุมได้ที่ นิรันท์คอนโด 3 ตึก 17 ซอยราม 2 แขวงบางนา เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีคนร้ายเป็นชายได้บุกเข้าไปใช้อาวุธปืนแบบแม็กกาซีนสีดำ ไม่ทราบขนาด ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ ภายในร้าน IT มันนี่ ซึ่งเป็นร้านรับจำนำอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ ตั้งอยู่ตรงข้ามซอยด่านสำโรง 22 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยที่คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้พนักงานสาวภายในร้ายหยิบเอาโทรศัพท์มือถือ และ นาฬิกาของลูกค้าที่รับจำนำไว้ซึ่งอยู่ในตู้โชว์ภายในร้านใส่ถุงผ้าสีฟ้าที่คนร้ายเตรียมมา ก่อนที่จะเดินออกไปขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ รุ่น สแมส สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป โดยเหตุการณ์ดังกล่าวกล้องวงจรปิดบันทึกภาพพฤติกรรมของคนร้ายในขณะลงมือก่อเหตุเอาไว้ได้ทั้งหมด
เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังออกสืบสวนหาข่าวจนกระทั่งทราบผู้ก่อเหตุได้นำเอาโทรศัพท์มือที่ก่อเหตุไปได้ ไปขายที่ร้านขายโทรศัพท์มือถือร้านหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในห้างเทสโก้โลตัส ศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นร้านที่ผู้เสียหายรู้จัก เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจสอบ ได้พบว่าที่ร้านรับซื้อดังกล่าวได้ขอหลักฐานเป็นสำเนาบัตรประชาชนเอาไว้ ชื่อ นาย ชลิต ชูพงษ์ อายุ 21 ปี ซึ่งทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟ อยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านถนนศรีนครินทร์ และจากการสืบสวนจนกระทั่งทราบว่าหลังก่อเหตุนายชลิต ได้หลบหนีไปกบด่านอยู่ที่บ้านเพื่อนในย่านราม 2 เจ้าหน้าที่จึงติตามตัวไปจับกุมเอาไว้ได้ พร้อมของกลางก่อนคุมตัวมาทำการสอบสวนที่โรงพัก สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ
นายชลิต ได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟ อยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในย่านศรีนคินทร์ แต่เงินไม่พอใช้ประกอบกับตนอยากได้ รถจักรยานยนต์ คันใหม่ จึงคิดหาเงินทางลัดและจำพฤติกรรมการก่อเหตุมาจากในโลกโซเชียล จึงซื้อปืนบีบีกันมาจากตลาดนัด และยืมรถจักรยานยนต์ของญาติมาลงมือก่อเหตุ โดยเลือกลงมือร้านร้านที่ปลอดคน กระทั้งพบเห็นร้านดังกล่าว มีผู้หญิงอยู่ในร้านคนเดียว จึงเข้าไปก่อเหตุ จากนั้นได้หลบหนีไปที่บ้านย่าน ตำบลบางเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ นำรถจักรยานยนต์ไปคืนญาติ และนำโทรศัพท์ไปขาย ส่วนนาฬิกานำนำไปจำนำ ได้เงินมา 7,000 บาท ส่วนเงินที่ได้มาตนนำไปใช้จ่ายและเที่ยวเตร่จนหมด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน และใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด ก่อนคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป