
นายเศรณี อนิลบล เกษตรจังหวัดน่าน พบปะเกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่ข้าวตำบลไชยสถาน อำเภอเมืองน่าน และแปลงใหญ่ข้าวตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ที่ได้เข้ารับการถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวปลอดภัยได้มาตรฐาน ในห้วงวันที่ 12-15 มิถุนายน 2563 ณ โรงแรม ดิอิมเพรสน่าน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ตามโครงการเพิ่มขีดการแข่งขันการเกษตรระดับภูมิภาค กิจกรรมถ่ายทอดเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวปลอดภัยได้มาตรฐาน ซึ่งกลุ่มแปลงใหญ่ได้รับมอบและสาธิตการใช้ครุภัณฑ์ทางการเกษตรคือรถดำนาและเครื่องเพาะกล้าข้าว ณ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร(ศพก.)ไชยสถาน ตำบลไชยสถาน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
ในการนี้เกษตรจังหวัดน่านได้กล่าวพบปะและกล่าวถึงแนวทางในการพัฒนาแปลงใหญ่ข้าวจังหวัดน่าน ตามที่จังหวัดน่านมีพื้นที่ปลูกข้าวเกือบ 3 แสนไร่ เป็นข้าวที่ปลูกในพื้นที่นาประมาณ 2 แสนไร่ ที่เหลือเป็นพื้นที่ปลูกแบบข้าวไร่ ปริมาณผลผลิตข้าวยังไม่เพียงต่อการบริโภคภายในจังหวัด จึงต้องใช้เทคโนโลยีในการผลิตข้าวเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มปริมาณผลผลิตให้เพียงพอ การปรับเปลี่ยนมาผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวซึ่งเฉพาะภายในพื้นที่จังหวัดน่านมีความต้องการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวถึงปีละนับหมื่นตัน หากเทียบมูลค่าการจำหน่ายข้าวเปลือกที่ราคาขึ้นลงระหว่างเกวียนละ 7,000 – 9,000 บาท หากจำหน่ายเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวราคาจำหน่ายจะเพิ่มขึ้นเป็นเกวียนละ 20,000 – 25,000 บาท หากกลุ่มเกษตรกรมีความสนใจในการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ในพื้นที่จะมีนักวิชาการของสำนักงานเกษตรอำเภอ นักวิชาการจากกรมการข้าวที่จะให้ความรู้ในขั้นตอนดูแลผลิตข้าวเพื่อทำเมล็ดพันธุ์ การเพิ่มมูลค่าข้าวโดยการแปรรูป อาทิ การบรรจุข้าวสารเป็นห่อถุงสูญญากาศถุงละ 1 กิโลกรัม หรือข้าวบรรจุถุงละ 5 กิโลกรัม ติดตราสัญลักษณ์หรือแบรนด์ของกลุ่ม เพื่อจำหน่ายในรูปแบบใช้เป็นของขวัญหรือของฝาก โดยหรือสำหรับบริโภคในครัวเรือน และใช้พันธุ์ข้าวที่มีมูลค่าสูง เช่น พันธุ์ข้าวหอมมะลิ ข้าวสายพันธุ์ปทุมธานี 1ฯลฯ และการพัฒนามาตรฐานสินค้าเกษตรปลอดภัยจนถึงมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ที่มีมาตรฐานได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เป็นทางการ จะทำให้ได้ข้าวสารที่มีมูลค่าสูงขึ้น ยกตัวอย่างข้าวหอมมะลิอินทรีย์ที่สามารถจำหน่ายได้ถึงราคาเกวียนละ 3 หมื่นบาท ซึ่งแนวทางการพัฒนาโดยใช้กลไกของศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน(ศจช.) ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน(ศดปช.) และแปลงใหญ่ ในการบริหารจัดการการผลิตอย่างเป็นระบบทั้งด้านโรคและแมลงศัตรู การบำรุงรักษาดิน ตลอดจนด้านการตลาด เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมต่อไป.