เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 30 พฤษภาคม 2564 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางมายังอาคารสำนักงานเขตปลอดอากร ชั้น 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อร่วมในพิธีรับมอบวัคซีนโรคลัมปี สกิน จำนวน 60,000 โด๊ส ที่คณะรัฐบาลได้มีการสั่งซื้อมาจากประเทศแอฟริกาใต้ ด้วยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบิน EK766 / EK384 เส้นทางโยฮันเนสเบิร์ก-กรุงเทพฯ โดยบรรจุมาในคอนเทเนอร์ชนิดปรับควบคุมอุณหภูมิ ออกจากเดินทางจากประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนแวะพักที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเดินทางออกจากเมืองดูไบ ตั้งแต่เวลา 02.50 น ของวันนี้ที่ 30 พฤษภาคม 2564 และมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเวลา 12.15 น. เจ้าหน้าที่ได้ลำเลียงวัคซีนเข้าสู่คลัง และจัดเก็บภายในห้องควบคุมอุณหภูมิตามมาตรฐาน โดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ทำพิธีส่งมอบให้กับนายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ก่อนปล่อยขบวนรถขนส่งวัคซีนโรคลัมปี สกิน จำนวน 60,000 โด๊ส พร้อมเวชภัณฑ์ยา และทีมสัตวแพทย์ออกปฏิบัติงานฉีดวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ได้รับผลกระทบ
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการนำเข้าวัคซีนโรคลัมปี สกิน ด้วยเป็นโรคอุบัติใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งพบการติดเชื้อครั้งแรกในโคเนื้อของเกษตรกรที่อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา และได้แพร่กระจายของโรค โดยมีแมลงเป็นพาหะ ไปยังโค-กระบือของเกษตรกรในจังหวัดต่าง ๆ ถึง 35 จังหวัด มีสัตว์ป่วยรวม 7,200 ตัว และตาย 53 ตัว โดยวัคซีน LSDV ลอตแรกจำนวน 60,000 โด๊สที่ได้รับในวันนี้ จะนำไปฉีดให้กับโคกระบือของเกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดเป็นหลักก่อน โดยต้องฉีดรอบจุดเกิดโรคเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโรค เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้เกษตรกร พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ดำเนินการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมอีกจำนวน 300,000 โด๊ส เพื่อให้เพียงพอ และเพื่อสร้างความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศไทย ที่สำคัญต้องขอฝากเรียนถึงพี่น้องเกษตรกรทุกคนที่กำลังประสบความเดือดร้อนว่าการฉีดวัคซีนโรคลัมปี สกิน ให้กับโคกระบือนี้ เป็นมาตรการช่วยเหลือของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น หากพบการเรียกร้องค่าใช้จ่าย ขอให้แจ้งมาที่ตนโดยตรง จะดำเนินการจัดการด้วยมาตรการขั้นเด็ดขาด
ดร.เฉลิมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า แต่อย่างไรก็ตาม การดำเนินมาตรการควบคุมป้องกันทั้ง 5 มาตรการ ได้แก่ 1. ควบคุมการเคลื่อนย้ายโค-กระบือ เพื่อลดการแพร่กระจายของโรค และปฏิบัติตามแนวทางการเคลื่อนย้ายอย่างเคร่งครัด 2. การเฝ้าระวังการเกิดโรคอย่างใกล้ชิด เน้นการรู้โรคให้เร็ว ควบคุมได้ทัน โรคสงบได้อย่างรวดเร็ว 3. การป้องกัน และควบคุมแมลงพาหะนำโรค ให้เกษตรกรป้องกันโดยใช้สารกำจัดแมลงทั้งบนตัวสัตว์ และบริเวณโดยรอบฟาร์ม ทั้งในพื้นที่ระบาดของโรคและพื้นที่เสี่ยง 4. การรักษาสัตว์ป่วยตามอาการ และ 5. การใช้วัคซีนควบคุมโรค ยังต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เพื่อให้การระบาดสงบโดยเร็วที่สุด และไม่เกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการกระจายวัคซีนโรคลัมปี สกิน ตลอดจนมาตรการชดเชยเยียวยาเกษตรกร ขณะนี้ คณะกรรมการอำนวยการ และคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการป้องกัน ควบคุม และเตรียมความพร้อมเผชิญเหตุโรคลัมปี สกิน ได้มีการวางแผนไว้เป็นที่เรียบร้อย และจะสามารถดำเนินการได้ทันที เมื่อได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาก่อน จึงจะสามารถนำมาใช้ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยของสัตว์ที่ได้รับวัคซีน คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน ซึ่งเมื่อทุกอย่างพร้อมกรมปศุสัตว์จะเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับโค-กระบือของเกษตรกรในทันที
*