ดร.ภัทรพล จำปารัตน์ อดีตนายกอบต.บางแก้ว ถึงแม้ปัจจุบันจะไม่มีตำแหน่งทางการเมือง แต่ด้วยใจที่เป็นจิตอาสาก็ได้ช่วยเหลือกับประชาชนมาโดยตลอด และหลังจากมีโรคโควิด-19ระบาดไปทั่วโลก ก็ได้ตั้งทีมงานจิตอาสา มาช่วยแจกสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคให้ประชาชนฟรีอย่างต่อเนื่อง
อ่านต่อ คลิ๊กจนล่าสุดได้สร้างตู้แบ่งปันน้ำใจ ไว้ที่หน้าบ้านจำนวน 1 ตู้ ทำให้มีประชาชนหลั่งไหลมาร่วมมอบสิ่งของ และมาหยิบสิ่งของแบ่งปันน้ำใจกันจำนวนมาก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างสร้างตู้ปันน้ำใจเพิ่มอีก 20 ตู้ โดยโรงงานที่รับทำตู้เมื่อทราบถึงเหตุผลก็ทำให้ด้วยใจไม่คิดค่าแรงหรือค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด คาดว่าอีก7วันน่าจะเสร็จ
ดร.ภัทรพล จำปารัตน์ อดีตนายกอบต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ (ปัจจุบันได้มีการยกฐานะจากอบต.บางแก้ว เป็นเทศบางเมืองบางแก้ว) กล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน ทุกคนยังได้รับความเดือดร้อนจากเหตุไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะในชุมชนในเขตเทศบาลเมืองบางแก้ว ตนจึงได้นำทีมงานไปฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อ 100 กว่าชุมชน จากนั้นก็ไปมอบถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้งต่างๆ ตามที่มีผู้สนับสนุนเข้าร่วมกิจกรรมในการช่วยเหลือประชาชน และเมื่อได้ลงพื้นที่ไปสัมผัสประชาชนอย่างใกล้ชิดแล้ว พบว่ายังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อนที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยพบว่าในเขตพื้นที่ตำบลบางแก้วมีกว่า 5หมื่นคน และประชากรที่มาอาศัยอยู่อีกเท่าตัว ทำให้ประชาชนในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองบางแก้วมีร่วม100,000 คน
ดังนั้นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นคนไทยที่มาอาศัยอยู่หรือจะเป็นชาวต่างชาติ ทั้ง เขมร พม่า ที่มาทำงานและพักอยู่ในพื้นที่ และได้รับผลกระทบ อย่างเช่นชาวพม่า เมื่อคลอดลูกมาแต่กลับประเทศไม่ได้ และยังตกงานอีกด้วย และอีกหลายๆชุมชนที่มาทำงานในต่างถิ่นอีกจำนวนมาก ที่ได้รับผลกระทบ จะกลับบ้านต่างจังหวัด หรือกลับประเทศตัวเองก็ไม่ได้ จึงอยู่ด้วยความลำบาก ชาวบ้านที่ตกงาน หรือรายได้ไม่เพียงพอที่จะดูแลครอบครัว
ดังนั้นตนและทีมงาน จึงมองว่า การที่เรานำสิ่งของไปแจกที่ชุมชนดีอยู่แล้ว แต่ก็อาจจะไม่ทั่วถึง จึงมีความคิดว่า ถ้าเรานำตู้กับข้าวแบบบ้านนอก ไปวางไว้ในชุมชนต่างๆที่มีความจำเป็น แล้วนำ ข้าวสาร อาหารแห้ง มาม่า ปลากระป๋อง ไข่ไก่ น้ำดื่ม หรือหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย ใส่ไว้ในตู้ เพื่อให้คนที่เดือดร้อนมาเปิดตู้แล้วหยิบสิ่งของที่จำเป็นเอาไปกิน เอาไปใช้ได้ จึงได้ทดลองนำตู้แบ่งปันมาวางไว้ที่หน้าบ้าน ของตัวเอง ปรากฏว่ามีทั้งผู้รับและผู้ให้มาเปิดตู้ทั้งหยิบของออก และใส่ของเข้าตู้กันจำนวนมาก
ประกอบกับผู้ที่มีจิตจะช่วยเหลือชาวบ้าน ก็นำสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้ในครัวเรือนมาใส่ไว้ในตู้ เป็นการแบ่งปันน้ำใจซึ่งกันและกัน ซึ่งทำให้คนที่อยากจะให้สิ่งของกับชาวบ้านแต่ไม่มีโอกาส ก็ได้มีโอกาสนำสิ่งของมาใส่ในตู้ ทำให้คนที่หิว คนที่ไม่มีจะกิน หยิบในตู้ไปได้ตามความจำเป็น คนละชิ้น สองชิ้น ซึ่งเราต้องมีน้ำใจแบ่งปันเผื่อให้คนอื่นที่เขาไม่มีด้วย โดยไม่เห็นแก่ตัว ส่วนคนที่อยากเติมก็สามารถนำสิ่งของมาเติมได้ตลอด
เรามองเห็นว่ามีชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อนในเขตพื้นที่ตำบลบางแก้วมีประมาณ 20 กว่าชุมชน ซึ่งตนก็อยากจะมอบให้ครบทุกชุมชน แต่วันนี้ก็ได้ทดลองนำตู้กับข้าวแบ่งปันน้ำใจมาจำนวน 1 ตู้ มาวางไว้ที่หน้าบ้านตัวเอง ภายในซอยริมคลองหลวงแพ่ง ใครขับรถผ่านไปมา ก็แวะจอดหยิบสิ่งของในตู้กับข้าวเอาไปกินเอาไปใช้ได้เลย ใครอยากเติมก็เติมได้ตลอดเวลา ขณะเดียวกัน เราก็ได้เริ่มผลิตตู้กับข้าวแบ่งปันน้ำใจ เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20 ตู้ เพื่อนำไปวางตามชุมชนต่างๆคาดว่าไม่เกิน 7 วันนี้ก็จะดำเนินการได้เสร็จ
ดร.ภัทรพล จำปารัตน์ ยังได้กล่าวอีกว่า หลังจากตั้งตู้แบ่งปันแล้ว ก็จะมีทีมงานเข้าไปดูแล ในช่วงเช้า และเย็น ว่ามีอาหารขาด เหลือและเพียงพอหรือไม่ และเมื่อเรานำตู้แบ่งปันไปตั้งที่ชุมชนไหน ก็อยากจะให้ชุมชนนั้นๆ ช่วยกันดูแล
และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่าน ท่านใดที่พอมี พอกิน ก็มาแบ่งปันน้ำใจคนไทยให้แก่กัน ไม่ว่าจะเป็นชุมชนไหน ตำบลไหน หรืออำเภอไหนก็ได้ ขอเชิญทุกท่าน ทำครัวเคลื่อนที่ ทำตู้กับข้าวมาแบ่งปัน มีน้ำใจให้ชุมชน
นอกจากนั้นเรายังได้เตรียมถุงยังชีพเพื่อนำไปแจกตามชุมชนต่างๆ ตามที่แต่ละชุมชนร้องขอมา ซึ่งเราได้ดำเนินการแจกไปแล้ว 4,000 กว่าครอบครัว โดยทีมงานที่เข้ามาช่วย ล้วนแต่มีจิตอาสา สละแรงกาย แรงใจเพื่อต้องการช่วยเหลือชาวบ้านจริงๆ หรือใครต้องการจะมาร่วมในการบริจาคและแจกสิ่งของเราก็ยินดี
ด้านนางสาวศศิธร ยังดี อายุ 39 ปี ผู้ที่นำสิ่งของมาใส่ในตู้แบ่งปัน กล่าวว่า ทราบข่าวจากทางเฟสบุ๊คว่า ทางอดีตนายกบางแก้ว ได้ทำตู้แบ่งปันน้ำใจ มาตั้งที่หน้าบ้าน พอดีที่บ้านมีสิ่งของประเภทปลากระป๋อง มาม่า อยู่พอประมาณ จึงได้นำมาใส่ในตู้เพื่อแบ่งปันให้กับคนอื่น ถือว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก คนที่ยากจนไม่มีเงินซื้อของซื้อกับข้าว เขาก็มาหยิบตรงนี้ไปได้ คนที่มีก็มาเติม คนที่ไม่มีก็เข้ามาหยิบของไปเท่าที่จำเป็นจะใช้
ด้านนายพิเชษฐ์ ดอกไม้ชี้ อาชีพ ขี่วินจักรยานยนต์รับจ้างวิน ม.สุริยาเพอร์เฟค ที่ขับวินจักรยานยนต์ผ่านมาพอดี และแวะมาหยิบสิ่งของในตู้แบ่งปัน โดยบอกว่า พอดีขับรถผ่านมาจึงแวะหยิบสิ่งของในตู้ เป็นน้ำปลา1 ขวด และปลากระป๋อง 1 กระป๋อง เพราะเศรษฐกิจตอนนี้ย่ำแย่ รายได้หดหายไปกว่าครึ่ง ถือว่าโครงการแบ่งปันน้ำใจในครั้งนี้ เป็นโครงการที่ดีมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า หลังจากที่ประชาชนที่ทราบข่าวว่ามีตู้แบ่งปัน ต่างทยอย นำสิ่งของมาใส่ในตู้แบ่งปันน้ำใจกันจำนวนมาก จนล้นตู้กับข้าว ขณะเดียวกัน ก็มีประชาชนที่ยากจน ได้เข้ามาหยิบน้ำดื่มบ้าง หน้ากากอนามัยบ้าง หรือ มาม่า ปลากระป๋องไปกันคนละเล็กละน้อย ตามที่จำเป็นต้องกินต้องใช้