มื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก. พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี รอง ผบก.รักษาราชการแทน ผกก.สภ.สำโรงเหนือ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันคุมตัว นาย สามารถ หรือ เก๋ บุญสุข อายุ 30 ปี ชาวสุรินทร์ และนาย วสันต์ หรือ หนึ่ง สวัสดีพุทธา อายุ 28 ปี ชาวกาฬสินธุ์ สองผู้ต้องวิ่งราวทรัพย์ร้านทองห้างทองเยาวราชศรีนครินทร์ ซึ่งตั้งอยู่ท้ายซอยวัดด่านสำโรง ต.สำโรงเหนือ .เมือง จ.สมุทรปาการ และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 77 – 81 / 2564 ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ในข้อกล่าวหา ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิด การพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม เดินทางมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังห้างทองเยาวราชศรีนครินทร์ ท้ายซอยวัดด่านสำโรงที่เกิดเหตุ หลังจากที่เมื่อช่วงเย็นของวานนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสามารถติดตามจับผู้นายสามารถ หรือเก๋ ได้ที่ห้างเช่าแห่งหนึ่งในซอย จรัญสนิทวงศ์ 34 แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร โดยให้การรับสารภาพว่าหลังก่อเหตุได้นำสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทจำนวน 1 เส้นที่ก่อเหตุมาไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งในห้างโลตัส สุขุมวิท 50 และตรวจยึดของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า โนวา สีน้ำเงิน-ขาวแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่ใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุ ที่จอดอยู่ด้านหน้าห้องเช่าดังกล่าว จึงได้ทำการตรวจยึดเอาไว้เป็นของกลาง และจากการสอบสวนขยายผลได้ทราบว่านายวสันต์ หรือ หนึ่ง หลังก่อเหตุได้นำสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 1 เส้นหลังก่อเหตุได้แบ่งกันคนละเส้นติดตัวไปด้วย โดยการนั่งรถ บขส.เพื่อที่จะเดินทางกลับไปกบดานที่บ้านเกิดในจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจนครราชสีมา ช่วยสกัดจับกุมตัวนายวสันต์ เอาไว้ได้ในขณะที่รถ บขส.คันดังกล่าวเข้าจอดรับผู้โดยสารที่ บขส.จังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทจำนวน 1 เส้นที่นำติดตัวมา ก่อนคุมตัวมาทำการสอบสวนที่โรงพัก สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ
จากการสอบสวนนายสามารถ ได้อ้างว่า ในช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีเงินไม่มีใช้ ก่อนเกิดเหตุตนได้ชักชวนนายวสัต์ หรือ หนึ่ง เพื่อนที่เคยไปแข่งรถจักรยานยนต์ด้วยกัน ให้มาก่อเหตุ โดยให้นายวสันต์ เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวที่ตนเป็นเจ้าของ ส่วนตนได้ลงมาก่อเหตุก่อนที่จะพากันหลบหนีไปกบดานที่ห้องพักของนาย สามารถ ก่อนที่จะแบ่งทองคนละ 1 เส้น นายสามารถได้นำสร้อยทองขาย ส่วนตนเดินทางไปกบดานที่บ้านเกิดในจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยกะว่าจะนำสร้อยทองที่ก่อเหตุมาไปขายที่ร้านทองในจังหวัดกาฬสินธุ์ แต่ก็มาถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิด การพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ก่อนควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป