
นายวีระชัย เข็มวงษ์ เกษตรจังหวัดพิจิตร ได้กล่าวถึงการขับเคลื่อนสร้างพลังเกษตรกรผู้นำ (Contact Farmer : COF) เร่งจัดทำแผนพัฒนาการเกษตรระดับหมู่บ้าน ภายใต้ 1 อำเภอ 1 ตำบลหลักส่งเสริมการเกษตร ตามแนวคิดงานส่งเสริมการเกษตรเชิงรุกจังหวัดพิจิตร (Phichit Agro Model) เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2563 ที่อำเภอสามง่าม และดำเนินการตลอดทั้งเดือนมิถุนายน 2563 จนครบทั้ง 12 อำเภอ เบื้องต้นกำหนดเป้าหมาย 12 หมู่บ้าน ใน 12 อำเภอ เป็นต้นแบบและขยายผลต่อยอดจนครบทุกหมู่บ้าน รวม 889 หมู่บ้าน โดยรื้อฟื้นงานเดิมของกรมส่งเสริมการเกษตร ที่เริ่มดำเนินการระหว่างปี 2520 – 2532 โดยครัวเรือนเกษตรกร 10 ครัวเรือน ที่อยู่ติดกันหรือใกล้เคียงกัน (คุ้มบ้าน) ได้คัดเลือกเกษตรกรผู้นำอย่างน้อย1คน1/10ครัวเรือนเกษตรทุกหมู่บ้าน(889หมู่บ้าน) จำนวน8,589คนมีบทบาทหน้าที่หลักในการรายงานภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ให้ผู้นำชุมชนหรือเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรรับทราบ เพื่อเร่งดำเนินการรับมือและแก้ไข การรายงานสภาวะการผลิตพืชที่สำคัญในพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรรับทราบถึงปริมาณการผลิต เพื่อวางแผนจัดหาช่องทางการตลาด รายการรายงานการระบาดของศัตรูพืช เพื่อให้ผู้นำชุมชนหรือเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรเร่งหาแนวทางรับมือแก้ไข ให้ทันต่อสถานการณ์ต่อไป
นายวีระชัย เข็มวงษ์ เกษตรจังหวัดพิจิตร กล่าวเพิ่มเติมว่า จากความสำคัญของเกษตรกรผู้นำข้างต้น จะเห็นได้ว่ากลุ่มเกษตรกรผู้นำ เป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในพื้นที่ของตนเองอย่างถ่องแท้ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญ และอาศัยความรู้ ประสบการณ์จากเกษตรกรผู้นำ มาร่วมกันจัดทำแผนพัฒนาการเกษตรในระดับหมู่บ้าน โดยเน้นปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่และเป็นความต้องการอย่างแท้จริงของคนในชุมชน เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการจัดทำแผนของชุมชน และต่อยอดเป็นแผนพัฒนาการเกษตรระดับตำบล (อบต.) ภายใต้กลไกศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล (ศบกต.) แผนพัฒนาการเกษตรระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และกลุ่มจังหวัดต่อไป และที่สำคัญเนื่องจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid 2019) ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
แม้ว่าจังหวัดพิจิตรจะไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าว แต่ก็ได้รับผลกระทบหลายด้าน ทั้งด้านการเกษตร การส่งออก การท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ดังนั้นการจัดทำแผนพัฒนาการเกษตรระดับหมู่บ้าน เพื่อให้ได้แผนงาน/โครงการ ด้านการเกษตรที่สอดคล้องกับปัญหา ความต้องการของเกษตรกร จึงมีความสำคัญอย่างมากเพื่อรองรับงบประมาณของภาครัฐ ทั้งกรณีเร่งด่วน และงบประมาณตามแผนงานปกติ (Function) ซึ่งแผนงาน/โครงการ ที่เกิดจากปัญหาและความต้องการของคนในชุมชน จะสามารถตอบโจทย์และแก้ไขปัญหา ให้เกษตรกรในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เมื่อได้แผนพัฒนาการเกษตรระดับหมู่บ้านแล้ว จะนำแผนพัฒนาการเกษตรดังกล่าว ผ่านการพิจารณา กลั่นกรอง เขียนโครงการ และจัดลำดับความสำคัญของโครงการ ณ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ในเดือนกรกฎาคม 2563 และทุกอำเภอเสนอผลการจัดทำแผนในการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการระดับจังหวัด (Provincial Workshop : PW) ช่วงเดือนกันยายน 2563 ต่อไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ สำนักงานเกษตรจังหวัดพิจิตร 056-613423 ต่อ 105