เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (18 มี.ค.64) ได้มีผู้เสียหายจากการถูกโกงเรื่องการซื้อถุงมือทางการแพทย์ จำนวนกว่า10 ราย เดินทางมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการ พร้อมด้วยนางสาวพัณณ์ชิตา วงศ์ศักดิ์ภวิกา ทนายความเพื่อขอคัดค้านการประกันตัว นายอรรถพล พงษ์มิตร ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการ ได้ติดตามจับกุมตัวนายอรรถพล พงษ์มิตร ได้ที่บ้านพัก จ.ระยอง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายอรรถพล พงษ์มิตร กลับมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดียังสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการ หลังจากที่มีผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกนายอรรถพล พงษ์มิตร หลอกลวงเนื่องจากผู้เสียหายได้โอนเงินจำนวนหลายล้านบาทเพื่อซื้อถุงมือแพทย์แต่ถูกนายอรรถพล พงษ์มิตร หลอกและไม่ยอมส่งสินค้าประเภทถุงมือแพทย์ตามที่สั่งไป
ด้านนายอัครเดช วีระวงศ์ ผู้เสียหาย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าก่อนหน้านั้นตนได้มีการสั่งออเดอร์กับทางโรงงานที่ผลิตถุงมือทางการแพทย์อยู่หลายแห่งเพื่อนำไปส่งให้กับทางลูกค้าหลายๆจังหวัดและลูกค้าที่ต่างประเทศ แต่เนื่องจากมีลูกค้าเป็นจำนวนมาก ทำให้กำลังในการผลิตถุงมือแพทย์ของทางโรงงานแต่ละแห่งมีไม่เพียงพอกับความต้องการ เนื่องจากถุงมือแพทย์มีความต้องการมากในช่วงยุคโควิด-19 จากนั้นได้มีตัวแทนของนายอรรถพล ติดต่อพูดคุยและเสนอขายสินค้าประเภทถุงมือแพทย์จึงได้สอบถามนายอรรถพล(ผู้ต้องหา) โดยนายอรรถพลอ้างว่าตนเองนั้นเป็นเจ้าของโรงงานขนาดใหญ่ชื่อ บริษัท คิมเบอร์ลี่ โกลฟ และมีกำลังในการผลิตถุงมือแพทย์ที่ได้มาตรฐานตั้งอยู่ในพืนที่ จ.ระยอง นายอรรถพลจึงได้นำเอกสารและหลักฐานต่างๆมาให้นายอัครเดช(ผู้เสียหาย)ดูเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ กระทั่งนายอัครเดช หลงเชื่อและเกิดความสนใจจึงขอดูตัวอย่างสินค้าหลังจากนั้นนายอัครเดช(ผู้เสียหาย)หลงเชื่อ
จึงได้สั่งออร์เดอร์สินค้าประเภทถุงมือแพทย์กับนายอรรถพลไป 30,000 กล่อง กล่องละ 325 บาท เมื่อประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อที่นายอัครเดช จะได้นำถุงมือแพทย์มาส่งให้กับทางลูกค้าของตนเองที่มียอดสั่งออร์เดอร์ค้างอยู่ พร้อมกับนายอัครเดชได้โอนเงินทั้งหมดจำนวนหลายล้านบาทให้กับทางนายอรรถพล(ผู้ก่อเหตุ)ตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญาและมีกำหนดเวลาการจัดส่งสินค้าทั้งหมดไม่เกิน 7 วัน แต่สุดท้ายได้สินค้าไม่ครบตามจำนวนที่สั่งและได้ติดต่อสอบถามนายอรรถพลแต่กับถูกนายอรรถพลบ่ายเบี่ยงมาตลอด โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้บางครั้งโทรศัพท์ไปเพื่อที่จะทวงถามแต่นายอรรถพลกับไม่รับสายและไม่ติดต่อกลับ นายอัครเดช(ผู้เสียหาย)ยังเปิดเผยอีกว่าสินค้าที่สั่งไปทั้งหมดจะต้องโอนเงินทั้งหมดไปก่อนทุกครั้ง แต่สินค้าที่ได้ กลับได้แค่ 30เปอร์เซ็น อีก 70 เปอร์เซ็นจะค้างไว้ และจะทำในลักษณะแบบเดียวกันกับลูกค้าทุกคนคือต้องโอนเงินก่อน สินค้าส่งตามหลังภายใน 7 วัน หรือจะทยอยส่งแล้วแต่จะตกลงกันในสัญญา แต่สินค้ากลับได้ไม่ครบตามจำนวนที่ตกลงกันไว้พอทวงถามก็ไม่รับสาย ปิดเครื่องโทรศัพท์บ้าง
จึงทำให้นายอัครเดชเกิดความเสียหายร่วม 4 ล้านบาท อีกทั้งต้องมาโดนโกงเงิน สินค้าก็ส่งให้ลูกค้าไม่ทันก็ต้องโดนลูกค้าปรับเพราะล่าช้า เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ที่หลงเชื่อก็จะโดนในแบบเดียวกัน
และในวันนี้กลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 ราย ที่เดินทางมาขอคัดค้านการประกันตัวหลังจากที่ทราบว่านายอรรถพลถูกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวไว้ได้เพราะผู้เสียหายแต่ละคนที่โดนนายอรรถพลโกงไปคนละหลายล้านบาทเฉพาะกลุ่มของตนที่มาวันนี้ค่าความเสียหายร่วม 40 ล้านบาท โดยเฉพาะนายเอ ( นามสมมุติ)ประกอบอาชีพเป็นนักธุรกิจและเป็นผู้เสียหายจากการถูกโกงการซื้อขายถุงมือทางการแพทย์ ต้องสูญเสียเงินไปเกือบ 100 ล้านบาท โดยจะให้ทนายความยื่นคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาลอีกด้วย