นิลพัท 
วันนี้ (5 มิ.ย.64) นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ (สายปฎิบัติการ1) เปิดเผยว่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ทอท. ได้บูรณาการทำงานร่วมกับกองกำกับการ 3 กอง บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายไชยวัฒน์ สืบพันธ์โพธิ์ อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาก่อคดีค้างเก่าตั้งแต่ปี 2561 ในข้อหา “ลักทรัพย์ในท่าอากาศยานโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือ พาทรัพย์นั้นไป”
นายกิตติพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจับกุมนายไชยวัฒน์ในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2561 นายแอร์เดรียน อะ ดิน ชาวออสเตรเลีย ได้นั่งรถแท็กซี่สีชมพู ไม่ทราบเลขทะเบียน จากสุขุมวิท มาที่ ทสภ. เพื่อเดินทางไปต่างประเทศ ได้พบว่ากระเป๋าเดินทางถูกเปิดและมีทรัพย์สินสูญหาย อาทิ หนังสือเดินทาง เงินสด 40,000 บาทไทย เงินสด 4,000 ดอลล่าร์ออสเตรเลีย เงินสด 350 ดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา จึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงาน สอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และขอดูภาพย้อนหลังจาก กล้องวงจรปิด ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ทอท. จึงได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด CCTV ย้อนหลังให้ พบว่านายแอร์เดรียน นั่งรถแท็กซี่ทะเบียน ทส 4894 กทม. สีชมพูขาว ของอู่ เค เอส ลิสซิ่ง ทราบชื่อผู้ขับขี่คือ นายไชยวัฒน์ สืบพันธ์โพธิ์ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวให้ช่วยติดตามไปที่ห้องพัก ปรากฎว่า นายไชยวัฒน์ ได้หลบหนีไปแล้ว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ได้รับแจ้งจากสถานทูตออสเตรเลีย ว่า นายไชยวัฒน์ ได้นำหนังสือเดินทางของ นายแอร์เดรียน มาส่งที่สถานทูต แต่ไม่ได้เอาทรัพย์จำพวกเงินตามรายการที่แจ้งไว้ ส่งคืนมาด้วย โดยอ้างว่าเก็บหนังสือเดินทางได้เพียงอย่างเดียว อีกทั้งผู้ต้องหาหลบหนีไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามหาตัวผู้ต้องหามาโดยตลอด จนสามารถจับกุมนายไชยวัฒน์ได้บริเวณข้างถนนปากซอยวัดรวกบางบำหรุฯ เขต
บางพลัด กทม. เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน2564 ที่ผ่านมา และได้นำตัวมาสอบสวนพร้อมกับส่งมอบหลักฐานให้กับ พ.ต.ท.กวีรัตนะ บังคมธรรม พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าของคดี เพื่อดำเนินคดีกับ นายไชยวัฒน์ สืบพันธ์โพธิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 233/2564 ลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 ข้อหา “ลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน โดยใช้ยาน พาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือ พาทรัพย์นั้นไป” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 336 ทวิ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท
ทั้งนี้ ทสภ.ให้ความสำคัญในการดูแลรักษาความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้บริการทุกท่าน โดยมีฝ่ายรักษาความปลอดภัย ทสภ. ศูนย์ ปฏิบัติการพิเศษ ร่วมกับกองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว และ สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อคอยดูแลรักษาความปลอดภัย ตลอดเวลา เพื่อเพิ่มความอุ่นใจแก่ผู้ใช้บริการ หากผู้ใช้บริการท่านใดพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือประสบเหตุด่วนเหตุร้าย สามารถแจ้งศูนย์รักษาความปลอดภัย ทสภ. โทร. 0 2132 4000 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
