เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุว่ามีการใช้อาวุธปืนรัวยิงใส่กันจำนวนหลายนัด มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย เหตุเกิดในชุมชนหลังฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ และ เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุหน้าบ้านพักหลังหนึ่ง พบ เด็กหญิง เอ (นามสมมุติ) อายุ 7 ปี นอนอยู่ร้องด้วยความเจ็บปวดบนพื้นถนน มีแผลถูกยิงเข้าที่แขนทั้งสองข้าง ที่อก 2 นัด และที่หลังอีก 1 นัด เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ ใกล้กันพบ ร่าง นางทองสี นิยมโภค อายุ 69 ปี นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นถนน แผลถูกยิงที่หลังขวา เอวขวา ไหล่ซ้าย และหน้าอกซ้าย เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือปั๊มหัวใจอยู่นานและไม่เป็นผลเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และที่บริเวณหลังบ้าน พบ นายพิศิษฐ์(หรือหนุ่ย) เอี่ยมพลี อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น มีแผลถูกยิงเข้าที่ขมับ เจ้าหน้าที่ให้ช่วยเหลือปั๊มหัวใจอยู่สักพัก ก่อนจะเคลื่อนย้ายนำส่งโรงพยาบาล ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ที่โต๊ะม้าหินอ่อน พบร่าง นายวาสนา ใจเที่ยง อายุ 45 ปี นอนคว่ำหน้าอยู่ มีแผลถูกยิงเข้าที่กลางหน้าอก สะบักขวาหลัง สีข้าง ต้นแขน ขาหนีบ ต้นขาซ้าย และ ที่ใต้ราวตากผ้า พบร่าง นางสาวรัตตาภัค นิยมโภค อายุ 43 ปี มีคว่ำหน้าอยู่กับพื้น มีแผลถูกยิงเข้าที่รักแร้ซ้าย หน้าท้องบนซ้าย โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังพบ อาวุธปืน กึ่งออโตเมติก ขนาด 9 มม. และ แม็กกาซีน จำนวน 2 แม็ก พร้อมกระสุนปืน ขนาด 9 มม. ในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. ตกกระจายเต็มพื้น รวม 18 ปลอก เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงทำการปิดกั้นพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ
ภาพจากกล้องวงจรปิดของชาวบ้าน มุมแรกจับภาพได้ในขณะที่ นายหนุ่ย ผู้ก่อเหตุ ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้ากล้องและเลี้ยวขวาเข้าซอยไม่ไกลจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังรัวขึ้นหลายนัด ก่อนจะหยุดยิง แล้วมีเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ไม่กี่วินาทีต่อมา เสียงปืนยังคงดังขึ้นติดต่อกันอีกหลายนัด โดยมีทางด้านบุตรสาวและบุตรชายของผู้ก่อเหตุวิ่งผ่านหน้ากล้องไปเพื่อเข้าห้ามปราบผู้ก่อเหตุ แต่ก็ไม่เป็นผล ซึ่งกล้องวงจรปิดอีกมุมจับภาพหลังเสียงปืนสงบ พบว่าบริเวณปากซอยมีชาวบ้านเข้ามาห้ามปราบบุตรสาวของผู้ก่อเหตุไม่ให้เข้าใกล้ในขณะนั้น หลังจากนั้นกล้องมุมเดิมจะเห็นว่าผู้ก่อเหตุออกมายิงตัวเองล้มลงที่พื้นถนนของหมู่บ้าน โดยมีบุตรสาวและบุตรชายเข้าไปดูอาการอย่างใกล้ชิด ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางมาถึงและเข้าเคลียร์พื้นที่
เด็กหญิง เอ (นามสมมุติ) คนเจ็บ บอกว่า ตาหนุ่ยทะเลาะกับแม่ แล้วแม่ก็เข้าบ้านไป แล้วก็ออกมาอีกครั้ง หนูก็เข้าไปเล่นโทรศัพท์ในบ้าน หนูก็ยินเสียงปืน หนูกับยายก็เลยออกมาดู ทั้งหนูและยายก็โดน ตาหนุ่ย ยิง เขามายิงพ่อกับแม่หนูก่อน แล้วเขาก็มายิงหนูกับยาย แล้วเขาก็ยิงตัวเอง
นายธนินวัฒน์ เอี่ยมพลี อายุ 43 ปี ( เสื้อแดง ) ลูกชายของ นายพิศิษฐ์ ผู้ก่อเหตุ ให้สัมภาษณ์ระบุว่า ปมเหตุที่แท้จริงนั้นตนเองไม่ทราบว่ามาจากเรื่องอะไร แต่บิดากับครอบครัวที่ถูกยิงนั้นเป็นเพื่อนบ้านสนิทกัน และมักมานั่งดื่มเหล้าด้วยกันเป็นประจำ แต่มาช่วงหลัง 3-4 วันที่ผ่านมา ทราบว่าบิดาของตนเองมีเรื่องผิดใจและทะเลาะวิวาทกับภรรยาของผู้ตาย แต่ไม่ทราบว่าเรื่องอะไร จนกระทั่งบิดามาก่อเหตุดังกล่าว
นายอนุทัช คนคล่อง อายุ 42 ปี ( เสื้อสีเทา ) หนึ่งในเพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์และพยายามเข้าไปช่วยเหลือ เล่าว่า ตนเองเห็นชายผู้ก่อเหตุเดินถือปืนมายิงใส่ผู้ชายที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าบ้านก่อนจากนั้นหันไปยิงใส่คุณยายและเด็กที่นั่งอยู่ใกล้ที่หน้าบ้าน แล้วเปิดประตูไปรัวยิงคนในบ้านอีกหลายนัด จากนั้นจึงออกมายิงตัวเองที่หน้าบ้านจนล้มลง ไม่นานพบว่าเด็กหญิง วัย 8 ขวบ ที่ถูกยิงนั้นพยายามคลานหนีตายออกมาขอความช่วยเหลือ ซึ่งตอนนั้นตนเองพยายามเข้าไปช่วยแต่ถูกหลายคนห้ามไว้เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
นางสาวธัญชนก ตะโหนดทอง อายุ 51 ปี เพื่อนบ้าน (เสื้อสีม่วง) เล่าว่า บ้านหลังนี้เป็นของผู้ก่อเหตุ ครอบครัวผู้เสียชีวิตมาเช่าอยู่ ปกติตนจะเห็นคนก่อเหตุและผู้ตาย(ผู้หญิง) นั่งกินเหล้ากันที่บ้าน2 คนทุกวันตอนกลางคืน ส่วนตอนเช้าตนจะเจอผู้ตาย(ผู้หญิง) ขายของเป็นประจำ แต่ไม่เคยเห็นคนอื่น ตนคิดว่าเป็นเพื่อนกันส่วนเรื่องอื่นตนไม่รู้ ปกติเวลาเขาเห็นตนตอนกลับบ้านมืดก็จะทักทาย ส่วนเรื่องอื่นตนไม่รู้ ตนจะรู้จักกับแฟนเก่าของผู้ก่อเหตุมากกว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนนิสัยดี แต่จะอารมณ์ร้อนนิดหน่อย แต่กับตนเขาทักทายยิ้มแย้มตลอด ตนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่คิดว่าเขาเป็นขนาดนี้ ปกติก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุอยู่บ้านนั่งกินเหล้าคนเดียว แต่หลังจากที่บ้านนี้มาอยู่ก็จะเห็นเขามานั่งกินเหล้าด้วยกัน เขาไม่ใช่ญาติกันเป็นแค่คนมาเช่าอยู่ ตนไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องชู้สาวเพราะผู้ก่อเหตุกินเหล้าได้กับทุกคน เขาเข้าได้กับทุกคน ตนจะเคยเห็นแค่เขาดุคนที่มากู้เงินเขาแล้วไม่คืน แต่ตอนอื่นไม่เคยเห็น
นายไพบูลย์ พินเที่ยง อายุ 59 ปี กำนัน ต.ท้ายบ้าน เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุมีอาชีพให้เช่าบ้านและปล่อยเงินกู้ ก่อนหน้าที่จะมาก่อเหตุนั้น ผู้ก่อเหตุไปดื่มสุราอยู่ที่บ้านของตนเอง กระทั่งขอตัวกลับมาได้ไม่นานพบว่ามาก่อเหตุยิงดังกล่าว ส่วนปมเหตุตนเองไม่ทราบเช่นกันว่ามาจากอะไร
นายอภิสิทธิ์ สกุลณวงศ์ ผู้ใหญ่บ้าน และ นางเฉี่ยว สกุลณวงศ์ อายุ 60 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า เท่าที่ตนรู้สองบ้านนี้ไม่เคยทะเลาะกันแต่จะนั่งดื่มกันตรงนี้เป็นประจำอยู่แล้ว ตนก็ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้ถึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ปมเหตุตอนนี้ตนยังไม่แน่ใจยังบอกไม่ได้ ตอนนี้เด็กปลอดภัยแล้ว และมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4 ราย ส่วนอาวุธปืนเป็นของผู้ก่อเหตุ ตนไม่เคยได้รับแจ้งว่าสองบ้านนี้มีเรื่องหรือปัญหาทะเลาะกัน เพราะจะมานั่งกินดื่มกันที่บ้านตรงนี้ประจำ ผู้ก่อเหตุน่าจะมีอาการมึนเมา เท่าที่ทราบปืนของผู้ก่อเหตุมีทะเบียนถูกต้อง เพราะเขาเคยบอกว่าตัวเขาพกปืนประจำ แต่เขาไม่เคยพูดว่าจะเอาปืนไปทำร้ายใคร แล้ววันนี้เท่าที่คุยเขาก็อารมณ์ดี ก่อนที่เค้าจะขอตัวไปทำธุระ เท่าที่รู้จักเขาเป็นคนนิสัยดีชอบช่วยเหลือคน เขาเป็นคนชอบดื่มแต่ไม่เคยมีเรื่องกับใคร
ขณะที่ พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ และรักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ออกมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าว หลังจากเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยระบุว่า ปมเหตุตอนนี้ให้น้ำหนักไปที่ เรื่องเงินกู้ ที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายหญิง คือ นางสาวรัตนาภัค นั้น ไปเอาเงินจาก นายหนุ่ย ผู้ก่อเหตุ มาปล่อยเงินกู้ราวแปดหมื่นบาท แล้วเกิดมีปากเสียงกันเรื่องเงินกู้ที่นำไปปล่อยกู้เมื่อช่วงสองวันก่อน จนทำให้ นายหนุ่ย ตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว โดยรัวยิงทั้งหมด 18 นัด สองแม็กกาซีน ซึ่งผลจาการชันสูตรสภาพศพเบื้องต้นพบว่า ในส่วนของนางทองศรี ถูกกระสุนยิงเข้าที่หลังขวา เอวขวา และหน้าอกรวม 4 นัด นายวาสนา ถูกยิงเข้าที่ กลางอก 2 นัด เอว และหลัง รวม 4 นัด ในขณะที่ นางรัตนาภัค ถกยิงเข้าที่หน้าทอง รักแร้ รวม 4 นัด ส่วนเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ถูกยิงที่ลำตัวและแขนกระสุนไม่ถูกอวัยวะสำคัญล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว ส่วนปมเหตุเรื่องชู้สาวก็ยังไม่ตัดประเด็นนี้ทิ้ง ซึ่งยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง จะต้องรอสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง
ส่วนเด็กหญิงที่ได้รับบาดเจ็บ อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ เบื้องต้นอาการอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด