บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) พร้อมแล้วในการให้บริการระบบพิ สูจน์อัตลักษณ์บุคคล หรือ Biometric สำหรับผู้ โดยสารภายในประเทศและระหว่ างประเทศ ในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 ณ สนามบินทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ เพื่อให้ผู้โดยสารได้รั บความสะดวกสบาย รวดเร็ว รวมทั้งจะช่ วยลดระยะเวลาในการใช้บริ การของแต่ละจุดบริการภายในท่ าอากาศยานของ AOT เหลือประมาณ 1 นาที จากเดิมประมาณ 3 นาที
สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการใช้ งานระบบ Biometric สามารถลงทะเบียนใช้งานเมื่ อมาเช็กอินที่สนามบิน ได้ 2 วิธี คือ (1) เช็กอินที่เคาน์เตอร์เช็กอิ นของสายการบิน ผู้โดยสารแจ้งเจ้าหน้าที่ สายการบินให้ลงทะเบียนใบหน้ าในระบบ Biometric ผ่านเครื่องตรวจบัตรโดยสาร โดยระบบฯ จะดำเนินการบันทึกข้อมูลใบหน้ าและข้อมูลเอกสารการเดิ นทางของผู้โดยสาร (2) เช็กอินที่เครื่องเช็กอินด้ วยตนเองอัตโนมัติ (เครื่อง CUSS: Common Use Self Service) ผู้โดยสารสามาถทำการกดปุ่มเลื อกสายการบินที่เดินทาง ตามด้วยการกดเลือกให้ความยิ นยอมลงทะเบียนใบหน้าในระบบ Biometric (Consent Notice) และดำเนินการเช็กอินผ่ านระบบจนได้รับบัตรโดยสารขึ้ นเครื่อง (Boarding Pass) จากนั้นทำการสแกน barcode ในบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) แล้วเสียบหนังสือเดินทาง (Passport) หรือบัตรประชาชน และสแกนใบหน้าเป็นขั้นตอนสุดท้ าย ถือเป็นการเสร็จสิ้นการลงทะเบี ยน ซึ่งระบบฯ จะดำเนินการบันทึกข้อมูลใบหน้ าและข้อมูลเอกสารการเดิ นทางของผู้โดยสาร และหากผู้โดยสารมีความประสงค์ จะโหลดกระเป๋าสัมภาระ สามารถทำผ่านเครื่องรับกระเป๋ าสัมภาระอัตโนมัติ (เครื่อง CUBD: Common Use Bag Drop) ตลอดจนผ่านจุดตรวจค้น และขั้นตอนขึ้นเครื่อง โดยผู้โดยสารไม่ต้องแสดง Passport และ Boarding Pass อีกต่อไป ทั้งนี้ ข้อมูลของผู้โดยสารที่ถูกบันทึ กไว้จะถูกลบทิ้งภายใน 48 ชั่วโมงนับจากเริ่มลงทะเบียน ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภั ยข้อมูลส่วนบุคคล และ ข้อกำหนดของกฎหมายคุ้มครองข้อมู ลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Act: PDPA) ของประเทศไทย
AOT มุ่งมั่นพัฒนาสนามบินในความรั บผิดชอบให้มีความพร้อมให้บริ การด้วยมาตรฐานเหนือระดับ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การเดิ นทางที่น่าประทับใจ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมอุ ตสาหกรรมการบิน การท่องเที่ยวของประเทศไทยให้ เติบโต ตลอดจนเป็นการสร้างรายได้ และกระตุ้นเศรษฐกิ จในภาพรวมของประเทศได้อย่างยั่ งยืนต่อไป