จากกรณี เจ้าของเฟสบุ๊คชื่อ Judy Nuanchawee ได้โพสต์ คลิปจากภาพวงจรปิดอุบัติเหตุ ขณะแม่ของตนเอง กำลังปั่นจักรยานข้ามถนน ระหว่างนั้นได้ถูกรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น แอล็อค พุ่งชนรถจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่คนขับจะหยุดรถและยังหันกลับมาต่อว่า และขี่ไปต่อ โดยไม่ใยดีผู้ได้รับบาดเจ็บ
อ่านต่อ คลิ๊ก
พร้อมกับระบุข้อความว่า อุบัติเหตุเลวขนาดไหนถึงได้ไม่ลงมาดูคนเจ็บ ถ้าหนูขับชนแม่พี่บ้างได้ไหมละได้หายกัน จะถูกจะผิดก็อีกเรื่องน่าจะมีน้ำใจลงมาดูกันหน่อย โดยคลิปดังกล่าวได้ถูกแชร์ต่อกันไปตามเพจต่างๆ และมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ที่ 20 พฤษภาคม 2563 นางบุญเลี้ยง สิงห์สนั้น อายุ 53 ปี ผู้บาดเจ็บ และ นางสาว นวลฉวี วันทะนะ ลูกสาว ซึ่งเป็นคนโพสต์คลิปดังกล่าว ได้เดินทาง เข้าพบ ร.ต.อ.ณัฐพล ชุมภู รอง สารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม และติดตามความคืบหน้าในเรื่องที่เกิดขึ้น ภายหลังจากได้เข้าแจ้งความไป เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
โดยนางบุญเลี้ยง กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 พฤษภาคม ที่บริเวณ ปากซอยด่านสำโรง 21 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ในขณะที่ตนได้ปั่นจักรยานข้ามถนนไปซื้อของที่ตลาด ซึ่งตนได้มองทั้งด้านหน้าและด้านหลังแล้วเห็นว่าถนนโล่ง จึงได้ปั่นจักยานข้ามจนไปถึงกลางถนน และเห็นมีเพียงรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ขับมาทางด้านหลังตนคิดว่ารถจักรยายนต์จะเบี่ยงไปทางหลังของตน ซึ่งขณะนั้นตนข้ามมาอยู่กลางถนนแล้ว และสามารถหลบไปได้ แต่จักรยานยนต์คันดังกล่าวกลับไม่ยอมหลบได้พุ่งตรงมาชนตนอย่างจัง จนตนกระเด็นตกจากรถลงไปนั่งกองอยู่กับพื้นได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุคนขับไม่ลงมาดู แต่กลับหันมาต่อว่าตนอีก ว่าข้ามถนนยังไงไม่ระวัง ก่อนที่จะเร่งเครื่องหลบหนี และมีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้เข้ามาช่วยเหลือ ทั้งนี้ตนมองว่าจะผิดอะไรก็ควรลงมาดูคนเจ็บก่อน เนื่องจากไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร น้ำใจเป็นสิ่งสำคัญ
ขณะที่ทางด้านนางสาวนวลฉวี ลูกสาวได้กล่าว่า ตนก็ไม่ได้ต้องการเอาผิดอะไร แค่อยากให้คนขับออกมายอมรับผิด และขอโทษก็พอ ตนเสียความรู้สึกที่เห็นแม่ของตนถูกรถชนจนกลิ้ง แต่คนขี่รถจักรยานยนต์กลับไม่สนใจลงมาดู แถมยังหันมาต่อว่าอีก ทั้งนี้ส่วนของตนเองก็ยอมรับผิด แต่ที่ติดใจคือคู่กรณีขี่รถหนีไปมากกว่า ส่วนอาการคุณแม่นั้น ถึงจะไม่ได้รับอันตรายสาหัสอะไร มีเพียงบาดแผลที่บอบช้ำจากการกระแทกและหัวเขาที่ยังบาดเจ็บอยู่
ขณะเดียวกันทางด้าน พ.ต.ท.ศิริมงคล สุขะปารมี รอง ผกก.สส.สภ.สำโรงเหนือ ทราบเรื่องจึงและตรวจสอบข้อมูลจากทะเบียนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว จนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสัมฤทธิ์ สิทธิพรหม อายุ 44 ปี และทำงานเป็น รปภ. อยู่ในซอยด่านสำโรง จึงได้เดินทางไปเชิญตัวมาทำการสอบสวน
โดยนายสัมฤทธิ์ ได้กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุระหว่างที่ตนขี่รถจักรยานยนต์ จากบ้านเพื่อไปเข้าเวร ระหว่างนั้นผู้บาดเจ็บ ปั่นจักรยานเลาะมาข้างถนนตัดหน้ารถตนกระชัดชิด ตนเบรกแล้วแต่ไม่อยู่จึงได้พุ่งชน ทั้งนี้ตนเองยอมรับว่าชนจริง และก็ไม่อยากเอาเรื่องเอาราว ถึงตนจะเป็นฝ่ายถูก เพราะคู่กรณีตัดหน้า ทั้งนี้ตนก็อยากจะขอโทษ ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้ลงมาคุยเนื่องจากรีบไปทำงาน และเห็นว่าคู่กรณีไม่ได้เป็นอะไรมาก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหานายสัมฤทธิ์ ว่าขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และไม่ให้การช่วยเหลือ สวนค่ารักษาทางคู่กรณียอมจ่ายให้เป็นเงิน 1 หมื่นบาท แต่ขอแบ่งจ่ายให้เป็น 2 งวด และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนทำการเปรียบเทียบปรับ และปล่อยตัวกลับไป