เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 26 มิถุนายน 2565 ที่บริเวณหน้าศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินห้อง CIP ชั้น 3 ประตู 8 อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมด้วย นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง ประธานเจ้าหน้าที่อาวุโส บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และผู้แทนจากบริษัท บางกอกไฟลท์เซอร์วิสเซส (BFS) ได้ร่วมกันแถลงข่าว กรณีมีสัมภาระของเที่ยวบินเส้นทางยุโรปที่มาต่อเครื่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีการตกค้าง
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 คลี่คลาย หลายประเทศทั่วโลกเริ่มผ่อนปรนให้สามารถกลับมาเดินทางได้ตามปกติ ทำให้ปัจจุบันปริมาณจราจรทางอากาศทั้งเที่ยวบินและผู้โดยสาร เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ธุรกิจการบินปรับตัวไม่ทันเกิดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าอากาศยานใหญ่ ๆ ในทวีปยุโรปประสบปัญหาด้านการบริหารจัดการส่งผลกระทบให้เกิดเที่ยวบินล่าช้าและมีสัมภาระตกค้างบางส่วนนั้น ขณะนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิพบปัญหาสัมภาระจากเที่ยวบินเปลี่ยนลำตกค้างบางส่วนแต่ยังคงสามารถบริหารจัดการได้ ด้วยการจัดเตรียมพื้นที่รองรับการจัดเก็บสัมภาระของผู้โดยสารเพื่อรอสายการบินนำส่งให้ผู้โดยสาร ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากเที่ยวบินต้นทางบางเที่ยวบินที่มาจากยุโรปมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีการล่าช้า ทำให้ไม่สามารถขนถ่ายสัมภาระที่ต้องเปลี่ยนลำได้ทันเที่ยวบินที่จะต้องเดินทางต่อ ปัญหาที่เกิดขึ้นท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยประสานผู้ให้บริการภาคพื้นทั้ง บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (บกท.) และ บริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟล์ทเซอร์วิส จำกัด (BFS ให้ดำเนินการขนถ่ายสัมภาระให้ทันเวลาหรือหากไม่ทันขอให้เร่งส่งสัมภาระไปยังเที่ยวบินถัดไปโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้รักษาคุณภาพการให้บริการให้เป็นมาตรฐาน สากลต่อไป