กำนันชาตรี อยู่วัฒนะ กำนันตำบลเทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า เนื่องจากเราเป็นกำนันตำบลเทพารักษ์ อะไรที่เกิดประโยชน์สูงสุดกับชาวบ้าน ก็ต้องทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรามีตลาดเทพประทาน และมีที่ดินว่างเปล่าอยู่ท้ายตลาดประมาณ 3 ไร่ จึงมาคิดว่าจะทำอย่างไร ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก่อนนำรถแม็คโคร มาปรับดินเป็นร่อง แล้วจึงมาคิดว่าจะปลูกพืชอะไรดี ที่จะเกิดประโยชน์แล้วสามารถนำมาใช้ได้ทุกส่วน จึงได้เลือกปลูกกล้วย เพราะได้ผลผลิตเร็ว ภายใน 1 ปีก็ได้ผลผลิตแล้ว โดยเริ่มปลูกกล้วยประมาณ 400 ต้น จากนั้นก็ปลูกมะละกอ เพราะนำผลมาขายได้ จึงได้ลงมือปลูกมาเรื่อยๆ
จากนั้นได้มีพัฒนาการจังหวัดสมุทรปราการ เข้ามาดูที่สวน และแนะนำให้ปลูกพืชผักสวนครัวเพิ่มเข้าไป จึงได้ปลูกพืชผักสวนครัวเพิ่มตามคำแนะนำ จากนั้นจึงได้ยึดตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง หลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสเข้ารับการอบรมเกี่ยวกับการเกษตร จึงได้กลับมาทำเป็นแนว โคก หนอง นา และคลองไส้ไก่ คือในน้ำเลี้ยงปลาด้วย และปลูกพืชผักไว้รับประทานเองด้วย ที่เหลือก็แจกจ่ายให้ลูกบ้าน โดยพืชผักในสวนจะปลอดจากสารเคมีทั้งหมด จะไม่มียาฆ่าแมลง และได้ทำปุ๋ยหมักเอง ทำให้อาหารที่เรารับประทานไปมีคุณภาพ ต่อมาจึงได้มีการปลูกพืช ที่สามารถให้ร่มเงาได้ จึงได้ปลูกไม้ยืนต้น เช่น มะม่วง ฝรั่ง และปลูกเพิ่มอีกหลายอย่างทั้งชะอม พริก มะเขือ มะลิ บัว ตะไคร้ ต้นแคเตี้ยกว่า 40 ต้น โดยในอนาคต จะทำให้เป็นศูนย์เรียนรู้ ทั้งเด็กๆ และผู้ที่สนใจก็เข้ามาศึกษาของจริงได้ อยู่ด้านหลังตลาดเทพประทาน (หนามแดง) และต่อไปก็จะทำป้ายบอกชื่อต้นไม้แต่ละต้นเพื่อให้เด็กๆได้ศึกษากันอีกด้วย
กำนันตำบลเทพารักษ์ ยังได้กล่าวอีกว่า และอีกไม่นานจะมีการต่อยอดผลิตภัณฑ์จากกล้วย ให้เป็นสินค้าโอทอป ของตำบลเทพารักษ์ เพราะกล้วยจะแปรรูปได้หลายอย่าง ทั้งกล้วยตาก กล้วยทับ กล้วยอบน้ำผึ้ง กล้วยกวน กล้วยเบรคแตก ในส่วนของต้นกล้วย ก็ยังสามารถมาทำเป็นเชือก เป็นกระเป๋า ซึ่งตรงนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำเป็นผลิตภัณฑ์ของตำบลเทพารักษ์ โดยเชือกกล้วยนำมาสานเป็นจานรองก็ได้ หรือจะถักหุ้มโถภาชนะต่างๆก็ดูสวยงาม และยังทำเป็นกระดาษสา มาทำเป็นกล่องใส่สิ่งของต่างๆ ซึ่งได้ไปดูงานที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งตอนนี้ต้องรอเวลาให้กล้วยออกเครือก่อน ถึงจะมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ได้ ส่วนหยวกกล้วยก็นำมาแกงได้อีกด้วย ซึ่งหวังว่างานโอทอปของจังหวัดสมุทรปราการตำบลเทพารักษ์ ต้องดิดอันดับ1ใน 5 อย่างแน่นอน และตรงนี้ก็จะเปิดโอกาสให้กลุ่มแม่บ้าน ที่มีความถนัดด้านนี้ ใครที่อยากมีอาชีพเสริมก็จะให้เขามาทำ และจะนำสินค้าของเขาไปออกงานอีกด้วย ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับกลุ่มแม่บ้านอีกต่อหนึ่งด้วย โดยเตรียมครูที่จะมาสอน มาฝึกอาชีพ สถานที่เรามีพร้อม หากใครสนใจจริงๆก็สามารถนำกลับไปทำที่บ้าน และได้ไปติดต่อตามห้างสรรพสินค้าแล้วว่า จะนำผลิตภัณฑ์ของตำบลเทพารักษ์นำไปวางขาย เพียงแต่ตอนนี้รอผลผลิตของกล้วยก่อน ทุกอย่างต้องเป็นขั้นเป็นตอนไป
ปัจจุบันก็ได้มีการประชาสัมพันธ์ลูกบ้านเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด เพราะถือเป็นโรคที่น่ากลัว เป็นภัยที่มองไม่เห็นตัว ซึ่งสวนตรงนี้ ก็ถือเป็นปอดของเทพารักษ์เหมือนกัน ถือว่าในเทพารักษ์มีเพียงที่เดียว ที่สามารถมาออกกำลังกายและชมความเป็นธรรมชาติ ขอให้สุขภาพแข็งแรงโรคภัยไข้เจ็บก็จะไม่มี โดยกำนันได้วิ่งออกกำลังกายทุกวันๆละ 5 กิโลเมตรหลายคนมาเที่ยวชมสวนก็จะชอบ เพราะอากาศดี ใครที่สนใจก็แวะมาชมกันได้
” ทุกวันนี้ผมใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่9 ปลูกผักไว้ทานเอง เหลือก็แบ่งปัน และมีการเลี้ยงปลา ทั้งปลานิล ปลาตะเพียน ซึ่งเลี้ยงไว้ตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นปลาที่กินผัก และเมื่อที่ตลาดมีผักเหลือ ขนมจีนเหลือ ก็จะนำมาให้ปลากิน พืชผักผลไม้มีผลผลิตมากมาย ก็จะแบ่งปันเพื่อนบ้านไปรับประทานกัน จะดำเนินชีวิตเรียบง่าย จะไม่มีการใช้ชีวิตแบบสังคมสมัยใหม่ ทำให้แต่ละวันไม่ได้ใช้เงินมาก กินอยู่อย่างพอเพียง ปลูกพืชผักอย่างพอเพียง ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง อยากจะฝากถึงพี่น้องประชาชนที่สนใจว่าการใช้ชีวิตอย่างพอเพียงของเราเอง อยู่ที่เราคิด มีความสุขกับสิ่งที่เรามี มีความสุขกับสิ่งรอบตัว อย่างตัวผมเองมีความสุขกับต้นไม้ กับธรรมชาติ ดังนั้นพี่น้องประชาชนที่สนใจก็สามารถเข้ามาชมได้ อยู่หลังตลาดเทพประทาน และจะเป็นแหล่งเรียนรู้ในอนาคตต่อไป” กำนันชาตรี กล่าว